[fuse. Review] – Taenagu (มาวิน บุญเหลือ)

Best Documentary Nominees ระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า fuse. KIDS Film Festival 2023

*มีการเปิดเผยเนื้อหาและตอนสำคัญ

เตหน่ากูเป็นเครื่องดนตรีของชาวปกาเกอะญอใช้เพื่อสื่อสารเรื่องราวของป่าชีวิตคน แล้วก็มีอยู่ยุคหนึ่งได้มีนโยบายไล่คนออกจากป่า จากหน้าที่เพื่อความเพลิดเพลินพวกเขาได้นำเตหน่ามาใช้สื่อสารกับคนข้างล่าง

Country roads, take me home
To the place I belong บทเพลงอมตะของศิลปินโฟล์คผู้เป็นตำนาน “จอห์น เดนเวอร์” ดังขึ้นในฉากจบของสารคดีเรื่องนี้ ร้องโดยคนปกาเกอะญอ และบรรเลงดนตรีคลอด้วยเครื่องดนตรีของชนเผ่า เรียกว่า “เตหน่า” ราวกับจะประกาศว่า ไม่ได้มีแต่กีต้าร์หรอกนะ ที่จะบรรเลงบทเพลง “สากล” ที่ข้ามมาจากอีกฝั่งของโลกได้

คนหนุ่มสาวชนเผ่าปกาเกอะญอกลุ่มหนึ่ง กำลังพยายามรักษาเครื่องดนตรีประจำเผ่าชิ้นนี้ ไม่ให้หายสาบสูญไป หลังความเจริญรุกคืบโอบรัดพื้นที่ป่าเขาอันเป็นเหมือนบ้านของพวกเขา

ชีวิตชนชาวปาเกอะญอผูกพันกับป่ามาแต่อดีต อยู่กับต้นไม้และพืชพันธุ์ต่างๆ เตหน่าก็มาจากต้นไม้ในป่านั่นเอง คนที่จะเล่นเตหน่าได้ ต้องรู้จักชื่อของต้นไม้ และรู้จักแหล่งของต้นไม้นั้น เครื่องดนตรีชิ้นนี้สะท้อนวิถีชีวิตคนปาเกอะญอ เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่มีจากธรรมชาติ มิใช่เป็นสินค้าที่นักดนตรีซื้อมาบรรเลง ความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวไม่ “แปลกแยก” คือหัวใจของคนบนที่สูง

ความพยายามรักษาสมบัติทางวัฒนธรรมชิ้นนี้เอาไว้ มิให้ดับสูญ ก็ต้องทำให้เตหน่านั้นมีชีวิต สามารถเติบโตในบริบทของสังคมสมัยใหม่ได้

ด้วยเหตุนี้เอง แม้จะเกิดความพยายาม “อนุรักษ์” เครื่องดนตรีชาติพันธุ์ชิ้นนี้ แต่เตหน่าหาได้ดำรงอยู่ตามแบบดั้งเดิม จำลองความเป็นต้นฉบับหรือความเป็น “ของแท้” แต่เตหน่ากำลังเกิดใหม่ กลับมามีชีวิตใหม่ ในโลกยุคสมัยใหม่ แม้จะเป็นเครื่องดนตรีที่มาจากธรรมชาติ แต่ในวันนี้องค์ประกอบบางส่วนของเตหน่ากลับมาจากระบบอุตสาหกรรม มาจากเมือง อย่างเช่นสายเบรกมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นยานพาหนะตัวแทนของความเจริญที่ก้าวรุกเข้าสู่ชุมชนของชนเผ่า

แต่ส่วนหนึ่งของมอเตอร์ไซค์อย่างสายเบรกซึ่งมาจากอุตสาหกรรม กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของเตหน่าซึ่งมาจากป่า ได้อย่างพอเหมาะพอดีและมีสุนทรียะอย่างอัศจรรย์ การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเตหน่า แสดงให้เห็นว่า เส้นลวดแปดถึงเก้าเส้นนั้นยังมีคุณค่า ยังไม่ได้กลายเป็นขยะ ที่กว่าจะย่อยสลายได้ก็อีกยาวนาน แต่กลับถูกนำมาใช้งานให้เกิดคุณค่าอย่างสูงสุด

เตหน่าจึงมิได้เป็นเพียงเครื่องดนตรี แต่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ ไม่ว่าในยุคเก่าที่สัมพันธ์กับต้นไม้ ป่าเขา ลำธาร หรือในยุคร่วมสมัย ที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตจากเมืองเช่นกรุงเทพฯ เตหน่าจึงมีชีวิตอีกครั้ง

ในภาษาปาเกอะญอ “หน่า” หมายความว่า ฟัง ส่วน “เต” หมายความว่า เล่น รวมแล้วหมายถึง “เล่นให้ฟัง” หัวใจของเตหน่าก็คือการฟังนั่นเอง ในวันนี้ที่เตหน่ากำลังมีชีวิตใหม่ ถูกนำออกบรรเลงขับขาน ไม่ว่าจะถูกจัดไว้เป็นเพลงพื้นบ้านหรือเพลงนอกกระแส แต่เตหน่ากำลังทำหน้าที่สำคัญ นั่นคือ เป็นกระบอกเสียงสะท้อนภาพชีวิตของคนปาเกอะญอให้คนในวงกว้างได้รับรู้

เตหน่าจะมีชีวิต ก็ต่อเมื่อมันถูกใช้บรรเลง กีต้าร์ทำได้ เตหน่าก็ทำได้เหมือนกัน นั่นคือความฝันของชาวปาเกอะญอ