[fuse. Review] – In the Deep of Flavor / จิต รู้ รส (ธนพนธ์ เพ็ญพิมาย)

Best Film Award ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า fuse. KIDS Film Festival 2024

*มีการเปิดเผยเนื้อหาและตอนสำคัญ

เมืองพิมายเป็นเมืองที่สร้างตามแบบแผนของศิลปะขอม มีลักษณะเป็นเวียงสี่เหลี่ยม ชื่อ พิมาย น่าจะมาจากคำว่า วิมาย หรือ วิมายปุระ ที่ปรากฏในจารึกภาษาเขมรบนแผ่นหินตรงกรอบประตูระเบียงคดด้านหน้าของปราสาท จากหลักฐานศิลาจารึกและศิลปะสร้างบ่งบอกว่า ปราสาทหินพิมายคงเริ่มสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในฐานะเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ รูปแบบของศิลปะเป็นแบบบาปวนผสมผสานกับศิลปะแบบนครวัด ซึ่งหมายถึงปราสาทนี้ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นสถานที่ทางศาสนาพุทธในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7

เมื่ออิทธิพลของวัฒนธรรมขอมเริ่มเสื่อมลงหลังรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และมีการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยในเวลาต่อมา เมืองพิมายคงจะหมดความสำคัญลง และหายไปในที่สุด เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับเมืองพิมายเลยในสมัยอาณาจักรสุโขทัย

ปราสาทหินพิมาย สร้างขึ้นตามความเชื่อเกี่ยวกับสวรรค์ และโลกมนุษย์ ลักษณะผังของปราสาทหินพิมายนั้นสร้างขึ้นคล้ายเขาพระสุเมรุ มีองค์ปราสาทประธาน ซึ่งอยู่ใจกลางของเทวสถาน เป็นเสมือนทางเชื่อมระหว่างโลกกับสวรรค์ ปราสาทหินพิมาย เป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในอำเภอพิมาย และจังหวัดนครราชสีมา

ตัวปราสาทหินพิมายในตอนเปิดเรื่องของสารคดี In the Deep of Flavor / จิต รู้ รส ถูกชูขึ้นมาให้โดดเด่น เสมือนตัวแทนเขาพระสุเมรุ สัญลักษณ์ของศูนย์กลางจักรวาล เพื่อประกอบเรื่องตามคำบอกเล่าของบรรดา subject สมาชิกของชมรมมนุษย์ต่างดาวพิมาย ภาพตัวปราสาทขับเน้นธีมหนังโดยรวมให้ความรู้ลึกลับลี้ลับน่าค้นหา

สกอร์ของหนังสารคดีเรื่องนี้ทำออกมาได้อย่างน่าชื่นชม การถ่ายภาพโดยจับให้เห็นแสงและเงาที่กำลังทาบทับบริเวณปราสาทหินโบราณอารายธรรมขอม ประกอบสกอร์ดนตรีตอนเปิดเรื่อง ให้อารมณ์เคว้งคว้าง สื่อถึงความเป็นอวกาศ และจักรวาล กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนดูทำออกมาได้ดี เป็นการปูธีมโดยรวมของหนัง สร้างความลึกลับ มีปริศนาที่รอการค้นหาคำตอบ

จากนั้นก็เป็นการเล่าเรื่องแบบโยนจิ๊กซอว์มาให้คนดูในลักษณะกระจายๆ ทีละชิ้นทีละชิ้น ไปเล่าเรื่องนู้นก่อนจะข้ามไปเล่าเรื่องนี้ แบบไม่ได้ปะติดปะต่อความต่อเนื่องให้ จากเรื่องความเชื่อมนุษย์ต่างดาว ความคิดของมนุษย์ที่ส่งคลื่นออกมาได้, การแสดง Cameo จาก ‘ท่านพี่และน้องหญิง’ ผู้เชื่อว่าพวกเขาสามารถจับคลื่นของสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคนดูว่า คลื่นพลังงานนั้นมีจริง ก่อนจะกระโดดไปเรื่องการทำผัดหมี่พิมาย ปัญหาการไร้ผู้สืบทอดวิชาการทำเส้นหมี่พิมาย ไปจนถึงร้านอาหารหลายๆ ร้านที่ทำผัดหมี่พิมายเป็นเมนู ทว่าสุดท้ายแล้ว จิ๊กซอว์เหล่านั้นกลับถูกเรียงร้อยด้วย ‘เรื่องราวของอารายธรรม กาลเวลา ความจำ และมนุษย์ต่างดาว’ เอาไว้ได้อย่างลงตัว

หนัง mockumentary อีกเรื่องที่ใช้วิธีการโยนจิ๊กซอว์ให้คนดูได้เห็นทีละส่วนๆ อย่างไม่ต่อเนื่อง เพื่อให้คนดูนำชิ้นส่วนจิ๊กซอว์เหล่านั้นมาต่อเป็นภาพ และทำความเข้าใจเนื้อเรื่องในภาพรวมเอาเอง คือ ร่างทรง (The Medium) หนังสยองขวัญปี 2021 ของผู้กำกับ บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่เล่าเรื่อง ป้านิ่ม ร่างทรงย่าบาหยัน กับความเชื่อเรื่องร่างทรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย นำไปสู่อาการผิดปกติของ มิงค์ หลานสาวป้านิ่ม ทำให้เชื่อว่าย่าบาหยันต้องการมิงค์มาเป็นร่างทรงคนใหม่ พร้อมจิ๊กซอว์อย่างเรื่องการสืบทอดกิจการค้าเนื้อสุนัขของแม่มิงค์, การเปลี่ยนศาสนาของมิงค์และแม่, การตายอย่างผิดธรรมชาติของพี่ชายและพ่อมิงค์, เรื่องไฟไหม้โรงงานตระกูลยะสันเทียะของพ่อมิงค์, เรื่องคำสาปของตระกูลยะสันเทียะ ทั้งหมดถูกโยนเข้ามาเป็นตัวจิ๊กซอว์ในหนัง โดยไม่ได้ร้อยเรียงเนื้อหาให้ต่อเนื่องแบบการเล่าเรื่องโดยปกติ

เช่นเดียวกับเรื่องร่างทรง เมื่อดำเนินเรื่องไปในจุดหนึ่ง สารคดี In the Deep of Flavor / จิต รู้ รส ก็หักไปอีกทาง ทำให้คนดูตั้งคำถามว่า จริงๆ แล้ว เรื่องของมนุษย์ต่างดาว ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกของชมรมมนุษย์ต่างดาวพิมาย หรือตัวแทนเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาว ที่เข้ามาแฝงตัวบนโลก ในเมืองพิมาย ล้วนเป็นตัวเคลือบเนื้อหาที่แท้จริงที่สารคดีเรื่องนี้ตั้งใจจะเล่า นั่นก็คืออารายธรรมของมนุษย์ที่มีเรื่องราว แต่กำลังจะถูกหลงลืมในเวลาอันไม่นานอย่าง ‘หมี่พิมาย’

เทคนิคที่เล่าเรื่องซ้อนเรื่อง โดยหุ้มเนื้อหาแท้จริงเอาไว้ด้วยธีมของความลี้ลับ สิ่งที่พิสูจน์หรืออธิบายไม่ได้ อย่างมนุษย์ต่างดาว มาหุ้มเรื่องการสืบทอดที่กำลังจะขาดช่วงของการผลิตเส้นหมี่พิมาย เป็นเทคนิคการเล่าเรื่อง ที่เห็นได้จากซีรีส์ hellbound ที่เล่าถึงยมฑูตโผล่มาไล่ล่ามนุษย์บาปด้วยไฟนรก จนเกิดลัทธิความเชื่อใหม่ขึ้นมาอยู่เหนือกฎหมายในสังคม โดยความสยองขวัญของยมฑูตที่โผล่มาไล่เผาคนไปทั่วเมือง อย่างหาคำอธิบายไม่ได้ เป็นเพียงเปลือกนอกที่ใช้หุ้มเรื่องความเชื่อของบรรดาลัทธิเกิดใหม่ และบ้านเมืองที่ถูกแบ่งแยกจากความเชื่อ กับกลุ่มคนที่พยายามต่อต้านความเชื่องมงายเหล่านั้น

ปกติแล้ว ในเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์ มักจะเกิดการปะทะกันระหว่างความเชื่อและความไม่เชื่อ เกิดเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่คิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระ ในขณะที่คนอีกกลุ่มจะเชื่อและตั้งทฤษฎีต่างๆ มารองรับความเป็นไปได้นั้นอย่างเหนียวแน่น จนหลายครั้งการปะทะกันระหว่างความเชื่อก็นำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด ทว่าตัวสารคดีจิตรู้รส ไม่ได้นำเสนอประเด็นการปะทะกันระหว่างความเชื่อที่แตกต่าง แบบที่สารคดีมนุษย์ต่างดาวเรื่องอื่นๆ มักจะนำเสนอ ในหนังเราจึงได้เห็นความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวเพียงด้านเดียว คือด้านที่เชื่อ จากตัว subject ที่มีทั้งสมาชิกของชมรมมนุษย์ต่างดาวพิมาย กับ subject ที่เชื่อว่าตัวเองมาเป็นชนเผ่ามนุษย์ต่างดาวแฝงตัวมาใช้ชีวิตบนโลก ขั้นกลางและเชื่อมต่อด้วยเหตุการณ์จำลอง ที่แสดงโดยตัว subject เองบ้าง ใส่นักแสดงคนอื่นเพิ่มมาบ้าง ก่อนจะกระโดดไปสัมภาษณ์ร้านอาหาร ที่ทำเมนูหมี่พิมาย กับผู้ผลิตเส้นหมี่พิมาย โดยไร้ subject ที่ต่อต้านความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาว

ความน่าสนใจของชนเผ่ามนุษย์ต่างดาวในสารคดีเรื่องนี้ ไม่ได้อยู่ที่อิทธิฤทธิ์ปราฏิหาริย์อย่างที่สารคดีมนุษย์ต่างดาวทั่วไปควรจะเป็น ไม่มีการลักพาตัวออกนอกโลก หรือการแสดงอำนาจวิเศษจากชนเผ่ามนุษย์ต่างดาว มีแค่เรื่องเล่าจากชมรมเด็กมัธยมที่เชื่อว่าพวกเขาได้เห็นยานอวกาศขณะกำลังกินผัดหมี่พิมาย แต่อยู่ที่เป้าหมายของพวกเขาในการแฝงตัวมาเพื่อนำเอาอารายธรรมที่มีเรื่องราว แต่ถูกลืมไปจากมนุษย์ โดยมนุษย์ต่างดาวอ้างว่าเคยเอาอารายาธรรมอื่่นที่ถูกลืมไปแล้ว

สุดท้ายแล้ว แม้ตัวหนังจะไม่ได้เฉลยออกมาตรงๆ ว่า อารายธรรมชิ้นต่อไปของมนุษย์ที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวกำลังจ้องที่จะเอาไปเก็บรักษาไว้ หลังถูกมนุษย์ลืมเลือนแล้วคืออะไร แต่คนดูกลับได้รับคำตอบนั้นอย่างชัดเจน