หนังเปิดฉากด้วยภาพหนุ่มขับรถเก๋งมาจอดริมถนนในยามค่ำคืน พลันก็มีน้องหมาตัวโตเดินออกมาเมื่อประตูรถเปิดออก แล้วหนุ่มนายนั้นก็ปฏิบัติการ “ปล่อยสุนัขทิ้งริมถนน” จากนั้นน้องหมาตัวนั้นก็ได้เที่ยวระเหเร่ร่อนด้วยความเศร้าและหวาดกลัว
นั่นทำให้ผมคิดถึงคลิปดังเมื่อไม่กี่ปีก่อนที่ใช้ชื่อว่า “1 วันพวกมันต้องเจอกับอะไรบ้าง?”
https://www.facebook.com/ThaiPBS/videos/10155733179200085 โดยคนทำได้ซ่อนกล้องไว้ที่ปลอกคอของเจ้าหมาจรจัดตัวหนึ่ง เพื่อดูสิว่าวัน ๆ มันต้องเจออะไรบ้าง
ซึ่งดูแล้วก็เป็นไปตามคาด แต่กลับรู้สึกสะเทือนใจยิ่งขึ้น เมื่อคิดไปว่าหากมันคือเจ้าน้องหมาที่เราเลี้ยงมันมากับมือ ที่เรารักเราผูกพัน ที่มันกินอิ่มนอนสบายในบ้านของเราตั้งแต่ตัวน้อยๆ แล้วต้องมาเผชิญกับทุกสิ่งอย่างที่เจ้าหมาจรจัดได้รับในทุกๆวัน ไม่ว่าจะโดนน้ำสาด โดนไล่ตีไล่เตะ โดนฝูงหมาไล่กัดจนต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน กระทั่งหอบแฮ่กๆด้วยความเหนื่อยล้าและหิวโซ ต้องคุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารตามถังขยะตามริมถนน ทั้งๆ ที่โลกของน้องหมาก็คือเจ้าของของมัน คนในบ้าน และบ้านที่มันอาศัยมาตั้งแต่ตัวน้อยๆ
คลิปชุดนี้จัดทำขึ้นโดยองค์กรพิทักษ์สัตว์ในประเทศอินเดีย เพื่อการรณรงค์ให้มีเมตตาหาอาหารหาที่อยู่ให้น้องหมาจรจัดที่น่าสงสาร โดยมียอดคนดูถึง 4 ล้านวิวภายในวันเดียว
เมื่อย้อนมาพูดถึงหนังสั้น 45 องศาเรื่องนี้ ก็พบว่าได้ดำเนินเรื่องคล้ายคลิปดังข้างต้น แต่กลับมีประเด็นความเชื่อทางศาสนาให้ผู้คนที่ยังไม่เข้าใจได้ไปค้นคว้าหาความรู้เพี่อความกระจ่างเช่นผมเป็นต้น
เริ่มเห็นได้ตั้งแต่ฉากนั่งกินข้าวกันในโรงอาหารของสองสาวนักศึกษามุสลิมที่แสดงให้เห็นถึงความต่างของความเคร่งเข้มระหว่างสาวโผกผ้ากับสาวแว่น ไม่ว่าจะความต่างของอาหารของทั้งสอง หรือความเคร่งครัด
“นี่เธอกำลังทำผิดกฎนายิดนะ” สาวโพกผ้าต่อว่าเมื่อเห็นสาวแว่นกำลังแบ่งอาหารให้น้องหมาที่โซซัดโซเซเข้ามาหา ซึ่งฉากนี้เองให้เราต้องรีบไปค้นคว้าหาความรู้ด้านศาสนาอย่างจ้าละหวั่น ซึ่งก็ช่วยให้หายสับสนกับความคิดของบางคนที่บอกว่าชาวมุสลิมนั้นรังเกียจสุนัข แต่หลายคลิปในยูทูปเราพบว่ามีพี่น้องมุสลิมแสดงถึงความมีเมตตาเอื้ออาทรต่อน้องหมาสัตว์โลกผู้น่ารัก (เช่น https://www.youtube.com/watch?v=OUdh05rD2BE แห่ชื่นชม! หนุ่มมุสลิมน้ำใจงาม ช่วยสุนัขแม่ลูกอ่อนติดกับดักสัตว์)
และยิ่งชัดเจนเมื่อหนังสั้นเรื่องนี้ดำเนินมาถึงช่วงท้ายเรื่อง ที่เราจะได้เห็นหนุ่มมุสลิมอีกนายหนึ่งที่กำลังก้มๆ เงยๆ เก็บขวดพลาสติกในถังขยะ ก่อนที่จะเงยหน้ามาพบสายตาอันน่าสงสารด้วยความหิวโหยของน้องหมา เขาจึงควักเอาอาหารที่พกมาวางไว้ให้มันกิน “หิวเหรอ เอ้า..กินซะสิ กินเลย กินได้เลย” แล้วก็เดินจากไป
สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าชื่นชมและเราขอขอบคุณก็คือ ทำให้เราแสวงหาความรู้จนทราบว่า พี่น้องชาวมุสลิมนั้นมิได้รังเกียจสุนัข และไม่มีบทบัญญัติใดที่ห้ามเลี้ยงสุนัขโดยเด็ดขาด เขาเลี้ยงกันได้แต่เลี้ยงกลางแจ้งเพื่อช่วยงาน เช่น เฝ้าสวน ล่าสัตว์ หรือให้ช่วยดูแลฝูงปศุสัตว์ แต่ที่ไม่นิยมเลี้ยงไว้ในบ้าน ไม่ให้มันขึ้นเตียงนอนของเจ้าของ ฯลฯ เพราะยึดมั่นตามบทบัญญัติในเรื่องของความสะอาด และนี่คือความน่าชมเชยของหนังสั้น 45 องศาเรื่องนี้ที่ทำให้เรามีโอกาสไปค้นคว้าหาความรู้จนเกิดความเข้าอกเข้าใจต่อพี่น้องต่างศาสนามากยิ่งขี้น