ภาพยนตร์ coming of age ที่ขุดลึกลงไปยังจุดที่ลึกที่สุดของวัยทำงาน ชวนคนดูย้อนวันวานกลับเข้าไปในโลกแห่งความฝันที่เป็นเหมือนโลกทั้งใบ ก่อนที่จะถูกล้อมกรอบ กัดเซาะด้วยสิ่งต่างๆ เมื่อก้าวเข้าสู่การเป็น “ผู้ใหญ่”
คุณเองก็เคยมีความฝันใช่มั้ย ฝันที่ไม่ต้องนึกถึงครอบครัว ฐานะทางสังคมหรือเศรษฐกิจ วรรณเองก็เคยมีเช่นเดียวกัน
เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ผู้เฝ้าฝันอยากเป็นนักดนตรีในวันที่เธอเติบใหญ่ขึ้น วรรณในวัย 40 ได้ย้อนกลับไปถึงตัวของเธอในวันที่กำลังเติบโตขึ้นมาอย่างงดงาม ด้วยแรงใจที่พยายามจะบันดาลฝันในการเป็นนักร้องของตนเองให้เป็นจริง เทปคาสเซ็ตอัดเสียงของตัวเธอเองเอาไว้เปรียบเสมือนไดอารี่ที่ทำหน้าที่พาคนดูนั่งไทม์แมชชีนกลับไปพบกับการเดินทางของวรรณ ที่หยิบเทปขึ้นมาฟังในวันที่เธอก่อร่างสร้างความฝันของเธอเอาไว้ จนมาถึงช่วงที่เธอต้องทิ้งกีตาร์เอาไว้ข้างหลังและเลือกทำงานที่พ่อกับแม่คาดหวัง สวมชุดสูทและกระโปรงอย่างเป็นทางการแทนที่จะแบกกีตาร์ไว้บนหลังอย่างในอดีต
ความฝันนั้นงดงามและเต็มไปด้วยพลังแห่งการทำเพื่อตัวตนของเธอ วรรณฝันอยากมีตุ๊กตาเป็นของตนเองและมุ่งมั่นตั้งใจว่าจะซื้อให้ได้หลังจากที่เธอกลายเป็นนักร้องดังแล้ว เทปคาสเซ็ตม้วนเล็กเต็มไปด้วยเรื่องราวที่วรรณคาดหวังกับตัวเธอเอาไว้ในอนาคต ว่าเธอจะเป็นศิลปินดัง มีเพลงมากมาย และมีเงินมากพอจะซื้อของทุกอย่างที่เธอต้องการได้ การได้มีรายได้และได้ทำตามความฝันของตนเองไปด้วยนั้นเป็นเรื่องที่เด็กสาวฝันเอาไว้
ในขณะที่ตัวเธอเองในอายุ 40 ปี อาจมีความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตต่างออกไป เธอยังคงคิดถึงกีตาร์ที่เธอเคยแบกในช่วงมัธยม คิดถึงการได้เล่นดนตรีที่เธอฝันเอาไว้ว่าจะอยู่กับมันได้ตลอดชีวิต แต่เธอกลับต้องทิ้งความฝันเหล่านั้นไว้เบื้องหลัง และตัดสินใจเดินในทางที่ใครหลายคนบอกว่ามันจะดีกับตัวเธอในอนาคต การมีอาชีพการงานที่มั่นคง รายได้ที่แน่นอนจะทำให้วรรณมีชีวิตที่ดีกว่า ตัวเธอในชุดสูทสีดำออกไปทำงานประจำที่เธอได้มันมาในที่สุดเมื่อเติบใหญ่ขึ้น
แต่ลึกๆ ของวรรณยังดูเหมือนจะคิดถึงกีต้าร์ตัวโปรดของเธออยู่เสมอ เธอยังคงรักการเล่นดนตรีไม่ว่าจะเติบโตขึ้นมาสักเพียงใด
เมื่อความฝันเป็นเหมือนเครื่องมือในการหล่อเลี้ยงชีวิตในวัยเด็กต้องถูกโยนทิ้งไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การได้ก้าวไปข้างหน้านั้น ทำให้การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเอาไว้ การเป็นนักดนตรีไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และแน่นอนว่าการต่อสู้กับพ่อแม่นั้นคงเป็นเรื่องที่ยากกว่าการประสบความสำเร็จในการเป็นนักดนตรีเสียอีก ตัวตนในวัย 40 ปี ของวรรณจึงดูเหมือนจะโหยหาความฝันยามเด็กที่เธอเคยมี และนั่นทำให้ดูเหมือนปัจจุบันของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ความเสียดาย หรืออาจเป็นความเสียใจในการโตมาเป็นผู้ใหญ่แบบที่ตนเองไม่ได้คิดหวังเอาไว้ การได้ย้อนกลับมาฟังเทปคาสเซ็ตจึงทำให้เธอได้พบกับตัวของเธอในอดีตอีกครั้ง
ในอีกมุมหนึ่ง การเป็นเด็กที่โตมาด้วยความฝันของการอยากเป็นนักดนตรีก็อาจทำให้วรรณเป็นคนที่งดงามไม่ว่าเธอจะไปยืนอยู่จุดไหนของสังคมเมื่อโตขึ้น การงานที่เธอเลือกเพื่อพ่อแม่นั้นอาจไม่ได้เป็นไปตามฝัน แต่วรรณก็ได้มาซึ่งความมั่นคงอย่างที่พ่อกับแม่เคยบอกเอาไว้ ในขณะเดียวกัน เธอก็ได้มีโอกาสคิดถึงการเป็นนักดนตรีอยู่เสมอ เธอยังรักกีต้าร์ตัวโปรดและจดจำความตั้งใจที่อยากจะทำฝันในวัยเด็กให้เป็นจริง วรรณในวันวานไม่ได้หายไปไหน แต่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของเธอเสมอมา ตัวเธอในวัยเด็กยังคงเป็นกำลังใจในการเติบโตของตนเอง และตัวเธอในวันนี้ก็ยังคงไม่ลืมฝันที่งดงามในอดีต
การเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่โหดร้าย แต่ในขณะเดียวกันมันก็ท้าทายตัวตนของเราทุกคนอยู่เสมอ การเลือกทางเดินในแต่ละครั้งตลอดการเติบโตนั้นไม่เคยง่าย ปัจจัยภายนอกมากมายบีบบังคับให้เราทำสิ่งที่ต้องฝืนตัวเองอยู่ร่ำไป เช่นเดียวกัน การเดินทางในแต่ละขั้นนั้นมีความสดใสและฝันอันงดงามในวัยเด็กคอยผลักดันให้ตัวตนของเรายังคงใช้ชีวิตได้อย่างสวยงามไม่แพ้กัน ความเสียใจหรือการยอมแพ้ระหว่างทางก็เป็นอีกหนึ่งความรู้สึกที่ทำให้การเติบโตเป็นผู้ใหญ่หมายถึงการยอมรับและเข้าใจหลายเหตุปัจจัยที่ทำให้เรามีตัวตนอยู่ทุกวันนี้
การได้ย้อนคิดถึงอดีตเป็นความสวยงามที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของความเป็นผู้ใหญ่ไม่แพ้ไปกับการได้เปิดเทปเพลงคาสเซ็ตฟังระหว่างวันหรือในเวลาพักผ่อน ความฝันยังคงแทรกซึมอยู่ในตัววรรณในรูปแบบอื่นๆ ของการใช้ชีวิตของเธอเสมอ ในขณะที่วรรณในวัยเด็กผู้นิยามการประสบความสำเร็จของตัวเองอย่างมุ่งมั่นตั้งใจก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญของวรรณในวันนี้ การเติบโตนั้นมีหลากหลายรสชาติและเต็มไปด้วยสีสัน การโอบรับเอาตัวตนของตัวเองในทุกช่วงวัยนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ วรรณในวัย 8 ขวบ กอดตัวเธอในวัย 40 อยู่เสมอไม่เคยหายไปไหน ยังคงเป็นกำลังใจและเป็นฝันที่สวยงาม แม้ในวันที่เธอคิดว่าฝันเหล่านั้นกำลังศูนย์สลายไป