[fuse. Review] – เฮมิเมตา / Hemimeta (ปัณณพร วัฒนพงษ์, 29.59 นาที)

*มีการเปิดเผยเนื้อหาและตอนสำคัญ

[ เรื่องย่อ: ไผ่ เด็กวัดแสนไร้เดียงสากำลังจะถูกจับให้บวชเณร หวังว่าจะทำให้หลวงพ่อหายอาพาธ ขณะเดียวกันชาวบ้านก็เลือกที่จะบูชาจอมปลวกในป่า และการกลับมาของ ฟ้าใหม่ เด็กสาวในเมืองก็ทำให้ไผ่เกิดตั้งคำถามกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ]

เด็กวัดผู้ว่านอนสอนง่าย พำนักกับหลวงพ่อมายาวนาน กำลังเข้าสู่วัยแห่งความเปลี่ยนแปลง พร้อมกับความสับสนที่เกิดขึ้นภายในตัวเขาเอง เมื่อเกิดทางเลือกให้เปลี่ยนผ่านถึงสองเส้นทาง

เส้นทางแรกของ “ไผ่” นั่นคือการดำเนินชีวิตในทางธรรม ซึ่งเหมือนจะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าและแน่นอนแล้ว ทั้งหลวงพ่อและชาวบ้านต่างเห็นพ้องต้องกันในเรื่องนี้ เพื่อให้หนุ่มน้อยได้สืบสานพระศาสนาและดูแลวัดอันเป็นศูนย์กลางของชุมชนสืบต่อไป

แต่ “ไผ่” กลับต้องเผชิญเส้นทางสายที่สอง ที่หญิงสาวแรกรุ่นวัยเดียวกัน “ฟ้าใหม่” หยิบยื่นให้ภายหลัง เธอส่งมอบหนังสือตำราเรียนซึ่งเป็นความรู้ทางโลกให้กับไผ่ โดยเฉพาะอยากยิ่งหนังสือเล่มเล็ก ๆ อย่าง “โลกแมลง” จนทำให้เด็กหนุ่มเริ่มต้นตั้งคำถามกับวัฏจักรของสิ่งมีชีวิตในทางวิทยาศาสตร์ แทนที่จะเป็นในทางธรรม

เรื่องราวของไผ่และความสัมพันธ์กับฟ้าไม้ ดำเนินไปในบรรยากาศของที่ถูกสร้างขึ้นอย่างละเมียดละไม การเดินเรื่องเป็นไปอย่างเนิบช้า รักษาจังหวะของเรื่องอย่างคงที่ พร้อมด้วยเพลงประกอบอันสอดรับ ได้ช่วยสร้างบรรยากาศของเรื่องให้ “เหนือจริง” เล็กน้อย นักแสดงทุกคนถ่ายทอดบทบาทได้ชัดเจน ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป บทสนทนาก็มีเท่าที่จำเป็น เปิดโอกาสให้ใช้เทคนิคทางภาพยนตร์นำเสนอเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างเต็มที่และมีชั้นเชิง

ขณะที่ศูนย์กลางความศรัทธาของชาวบ้านจะอยู่ที่ตัวหลวงพ่อแล้ว (ดูเหมือนว่ายายของฟ้าใหม่ไม่ค่อยชอบขึ้นหน้าหลวงพี่อาวัฒน์นัก) พวกเขายังมีศรัทธาในจอมปลวกยักษ์ริมลำธารที่เพิ่งพบเจออีกด้วย ชาวบ้านผสานความศรัทธาทั้งสองเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แยกว่าเป็นศาสนาหรืออวิชชา (คุณไสย) และในวันพระ พวกเขานำโดยยายของฟ้าใหม่ได้ยกขบวนไปกราบไหว้จอมปลวกเพื่อขอให้หลวงพ่อหายอาพาธ แต่หายนะกลับเกิดขึ้น

นอกจากฟ้าใหม่แล้ว จอมปลวกยักษ์ทั้งในฐานะปลวกและแมลงเม่า ได้เข้ามาวุ่นวายภายในมโนธรรมของหนุ่มน้อยไผ่

ฟ้าใหม่พยายามยื้อยุดไผ่ให้อยู่ในเส้นทางแห่งฆราวาสต่อไปให้ได้ ด้วยการเติมความรู้ทางโลกในทางชีววิทยา แม้ในตอนแรกไผ่จะปฏิเสธ เพราะเขาต้องใช้เวลาท่องจำบทสวดมนต์ที่ต้องใช้ในพิธีบรรพชา ด้วยการฉีกตำราไปจุดไฟต้มน้ำร้อนให้หลวงพ่อ (ศาสนา) แต่เมื่อเริ่มใกล้ชิดกับฟ้าใหม่ เขาก็สงสัยว่า เมื่อแมลงเติบโตขึ้นแล้วจะกลายเป็นอะไรกันแน่ เพราะคำเฉลยอยู่ในหน้าหนังสือที่ฉีกเป็นเชื้อไฟไปแล้ว

ความรู้ทางโลกที่ขาดหายไปตรงนี้ ไผ่พยายามถามหาเอาจากหลวงพ่อ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ แถมยังถูกดุด่าว่ากล่าว หาว่าใจลอย เพ้อเจ้อ ถามอะไรที่ไม่เป็นเรื่อง ไม่ยอมท่องบทสวดเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมบวช ไผ่จึงต้องแสวงหาคำตอบในเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

นอกจากจะเหนี่ยวรั้งไผ่ด้วยความรู้ทางโลกแล้ว ฟ้าใหม่ยังพยายามใช้สัมผัสทางกายอีกด้วย จนเหมือนกับประกาศตัวว่าเป็นปรปักษ์ต่อศาสนาโดยตรง แน่นอนว่ามิได้มีแต่ศาสนาพุทธเท่านั้น ผู้หญิงล้วนแล้วแต่เป็นภัยต่อศาสนาหลัก ๆ ของโลกทั้งนั้น

และแล้วไม่นานนัก ไผ่ก็ทราบคำตอบดังกล่าว ที่มาพร้อมกับความสูญเสีย

ในวันพระ วันที่ชาวบ้านยกขบวนกันไปบูชาจอมปลวกยักษ์นั่นเอง ก็เกิดลมฝนและพายุ กุฏิไม้ของหลวงพ่อนั้นเก่าและผุพังแล้ว จนปรากฏสัญญาณเป็นระยะ เนื่องด้วยถูกปลวกซึ่งยังเป็นตัวอ่อน และเป็นหนึ่งในวัฏจักรของแมลงกัดกร่อน สุดท้ายแล้วลมพายุพัดถล่มกุฏิของหลวงพ่อพังลง จนท่านมรณภาพใต้เศษซากปรักหักพังอย่างไม่คาดคิดมาก่อน

แล้วในงานณาปนกิจศพหลวงพ่อนั่นเอง แมลงเม่าซึ่งเติบโตจากตัวอ่อนปลวกพากันปิดมาเล่นแสงไฟอย่างสนุกสนาน เพื่อสืบสายพันธุ์ของตัวเองให้ฐานะปลวกต่อไป ขณะที่ไผ่ซึ่งเศร้าโศกเสียใจ ก็ได้ประจักษ์ชัดแล้วว่า แมลงจะกลายเป็นอะไรต่อไป อันเป็นความรู้ที่ได้มาด้วยชีวิตของหลวงพ่อ

จากปลวกกลายเป็นแมลงเม่า แล้วจากแมลงเม่ากลับกลายเป็นปลวกอีกครั้ง เป็นวงจรชีวิตหมุนเวียนไปอย่างไม่สิ้นสุด จนไผ่ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องทำลายหรือตัดขาดวงจรอุบาทว์นี้เสีย แต่การบูชาจอมปลวกอันเป็นอวิชชาย้อนกลับมาทำร้ายหลวงพ่อเสียเอง ทั้งที่หลวงพ่อเคยเตือนไผ่ว่าอย่าไปทำอะไรลบหลู่จอมปลวก มิเช่นนั้นอาจได้รับโดนถึงตาย

ในระหว่างเผาศพหลวงตานั่นเอง ไผ่สบสายตากับวันใหม่ซึ่งกำลังประคองยายกลับบ้าน เหมือนกลับจะเป็นการสั่งลาสาวน้อยอย่างเป็นทางการ