[fuse. Review] – จบการศึกษา (ชญานนท์ วงษ์สมศรี, 15.59 นาที)

*มีการเปิดเผยเนื้อหาและตอนสำคัญ

การเติบโตนั้นมาพร้อมกันกับความเปลี่ยนแปลง และความเปลี่ยนแปลงนั้นมาพร้อมการสูญเสียและการได้มาซึ่งสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ภาพยนตร์สั้นเล่าเรื่องช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของสองเพื่อนสนิทต่างเพศที่มีความรู้สึกพิเศษต่อกัน ทำให้พวกเขาต้องมานั่งจับเข่าคุยเพื่อหาทางออกให้กับการตัดสินใจของพวกเขา เพราะไม่ว่าจะไปทางใด สิ่งที่เลือกนั้นก็ล้วนพบกับความยากลำบากในอนาคตอยู่เสมอ แต่ใครเล่าจะหยุดเวลาได้ วิธีการทำความเข้าใจในความสัมพันธ์ภายใต้เงื่อนไขแห่งความเปลี่ยนผ่านดังนั้น จึงสร้างบทสนทนาและการตัดสินใจสำคัญที่พวกเขาจะต้องคิดหนักให้กับอนาคตและปัจจุบันของตนเอง

ฉากเปิดเริ่มต้นที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งบนศาลาไทยที่นั่งเล่นและนั่งพักสำหรับนักเรียน บทสนทนาสั้นๆ พร้อมกับเพลงที่แชร์ให้กันฟังผ่านหูฟังนั้นทำให้เราเห็นถึงความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันของคนทั้งสอง การพูดคุยเริ่มต้นขึ้นอย่างง่ายๆ ในขณะเดียวกันการแชร์เพลงก็เป็นท่าทางที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ทำให้เราเข้าใจดีว่าทั้งสองต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างแน่นอน

แต่ความสัมพันธ์และความสนิทสนมของพวกเขากลายเป็นเรื่องที่ดูเหมือนว่าจะต้องตัดสินใจขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นจากมุมมองในปัจจุบันหรืออนาคตเมื่อช่วงเวลาแห่งการจบการศึกษามาถึง การจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมนั้นนับได้ว่าเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับทุกคนเสมอ เพราะการไปเรียนต่อในระดับมหาลัยนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ตลอด 18 ปีภายในรั้วโรงเรียนนั้น เราได้พบกับเพื่อนและมีประสบการณ์มากมาย แต่นั่นก็นับว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับมหาลัยในระดับอุดมศึกษา ไม่เพียงแค่ศาสตร์ความรู้ที่กว้างใหญ่ขึ้น แต่ความหลากหลายของสังคมก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย การตกลงสร้างความสัมพันธ์ในวันจบมัธยมเพื่อไปต่อในระดับมหาลัยนั้น จึงเป็นเรื่องที่คิดทั้งสองตั้งคิดอย่างหนัก

บทสนทนาเกือบสิบนาทีของทั้งสองคนยังคงวนอยู่ที่ประเด็นเดิมในความสัมพันธ์ของพวกเขา ฝ่ายหญิงนั้นมีความรู้สึกหวาดกลัวในการเริ่มต้นความสัมพันธ์แบบชายหญิงกับฝ่ายชาย เธออาจจะทำให้เขาลำบากใจในอนาคต เธอกลัวการผิดหวัง การสูญเสียและอุปสรรคที่ต้องเกิดขึ้นเมื่อทั้งสองต้องโยกย้าย ในขณะที่ฝ่ายชายนั้นพยายามโต้ตอบฝ่ายหญิงอยู่เสมอในมุมตรงข้าม หากไม่ลองก็ไม่มีทางได้รู้ การพัฒนาความสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องที่เขาต้องการและมันไม่ได้เป็นเรื่องยากอย่างที่คิด แน่นอนว่าความทรงจำหากไม่สร้างสิ่งดีๆ ไว้ร่วมกันก็จะไม่เกิดสิ่งใดขึ้น พวกเขาอาจจะต้องเสี่ยงและเจ็บหนัก แต่เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะลองเพราะความรู้สึกที่เขามีให้เธอนั้นล้นพ้น แต่อาจไม่ทำให้ฝ่ายหญิงมั่นใจได้ว่าความรู้สึกนั้นจะคงอยู่ตลอด ในระหว่างที่พวกเขาต้องโยกย้าย การไปเจอโลกใบใหญ่ทำให้เด็กหญิงรู้สึกว่าการผูกมัดในวันนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรและอาจทำให้พบปัญหาได้อีกมากมายในอนาคต และตัวเธอเองก็ไม่อยากทำให้ทั้งคู่ต้องเจ็บปวด คงจะดีกว่าหากพวกเขาสามารถเป็นเพื่อนกันได้ตลอดชีวิต มากกว่าการคบกันแค่ในช่วงเวลาสั้นๆ และแยกจากกันไปไม่ได้พบกันอีกเลย

ความสัมพันธ์และการเวลานั้นเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาและยากจะคาดหวังให้สุขสมหวังไปตลอด ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหน การเวลาและระยะทางนั้นเป็นตัวแปรที่สำคัญกับความสันพันธ์เสมอ แน่นอนว่าแต่ละคนคงจะมีคำตอบให้ตัวเองอย่างแตกต่างหลากหลายไม่เหมือนกัน เพราะความสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนแต่ก็ง่ายดายเหลือเกินสำหรับผู้ที่ต้องตัดสินใจ นักเรียนมัธยมปลายไร้ชื่อที่ผู้ชมได้เข้ามาฟังบทสนทนาของพวกเขานั้นต่างก็เอาใจช่วยให้ความสัมพันธ์นั้นเดินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจแบบใด พวกเขาทั้งสองคนล้วนรู้ดีที่สุดว่าสิ่งไหนจำเป็น

ในท้ายที่สุด ฉากสุดท้ายของเรื่องสั้นนั้นคือฉากที่หญิงสาวนอนลงบนตักของชายหนุ่มและบอกว่า “มันคงจะดีนะ ถ้าเราเดินไปด้วยกันได้” คำตอบนั้นเกินจะคาดเดาบทสรุปสุดท้ายของเรื่อง แต่เราแน่ใจว่าทั้งสองจะยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไม่ว่าจะตัดสินใจไปแบบใด เพราะถึงแม้การเข้ามหาลัยจะเป็นอีกก้าวใหญ่ของชีวิต แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตอย่างแน่นอน มีเรื่องราวความรักสุดโรแมนติกมากมายเกิดขึ้น อยากคู่รักที่คบกันมาตั้งแต่วัยเรียน วัยมัธยม แต่แน่นอนว่านิยายรักนั้นมีอุปสรรคมากมาย เวลาก็เป็นหนึ่งในเครื่องพิสูจน์สำคัญเหล่านั้นด้วย

ภาพยนตร์เลือกใช้โทนของสีและฉากที่อบอุ่นในขณะเดียวกันแสงก็ใช้แสงฟุ้งค่อนข้างมากตลอดเรื่อง ประกอบกับฉากที่เซ็ตขึ้นในโรงเรียนชวนให้นึกถึงความทรงจำในวัยมัธยม วัยที่ยิ้มได้กว้างที่สุด หัวเราะได้เสียงดังที่สุด รักได้แบบไม่มีเงื่อนไข ความทรงจำในโรงเรียนมัธยมนั้นเป็นความทรงจำที่น่าจดจำเสมอไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพ ความรัก ความสนุก และความวุ่นวาย ตัวละครสองตัวนี้พาผู้ชมกลับไปสำรวจความทรงจำของตนเองอีกครั้ง ในวันที่เวลาได้ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความทรงจำของเรายังคงชัดเจนอยู่อย่างเดิมหรือไม่ แน่นอนว่าภาพยนตร์ให้คำตอบกับเราไม่ได้ มีแต่คุณเท่านั้นที่จะตอบได้ เช่นเดียวกันกับตัวละครทั้งสองในเรื่องนั่นเอง