วิสัยทัศน์ของผู้กำกับภาพยนตร์ระดับตำนาน

David Lean

David Lean (The Bridge on the River Kwai , Rawrencence of Arabia, Doctor Zhivago): แม้อารมณ์จะประทุแค่ไหน ผมก็จะไม่ตะคอกนักแสดงระหว่างการถ่ายทำอย่างเด็ดขาด แต่จะค่อยๆเรียกมาคุยมาทำความเข้าใจ ผมไม่ชอบสั่งหรือบ่นเหมือนครูที่คอยจู้จี้กับนักเรียน ผมจะไม่ทำให้เขาหวาดกลัวหรือประหม่า แต่จะเปิดโอกาสให้นักแสดงได้มั่นใจในตนเอง ได้ปลดปล่อยพลังความสามารถออกมา เพื่อที่พวกเขาจะได้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก การเคลื่อนไหวของตัวละครนั้นอย่างสมจริงที่สุด

Wong kar Wai

Wong kar Wai ( In the Mood for love , Happy Together , Days of Being Wild): เหตุที่ผมแทบจะไม่เคยให้นักแสดงอ่านบทเลย ก็เพราะ บทของผมมันไม่เคยหยุดนิ่ง ในหนังแต่ละเรื่องผมจะมีเพียงแนวคิดกว้างๆที่จะลงไปในรายละเอียดก็ต่อเมื่อได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ถ่ายทำจริง ตรงนี้แหละที่ผมจะเกิดไอเดียคิดถึงเรื่องภาพ เรื่องบทสนทนา ประกอบกับการที่ผมจะเข้าใจตัวละครของผมทุกตัวอย่างลึกซึ้ง ก็จะอธิบายให้นักแสดงเข้าใจ เช่น ในขณะนั้นตัวละครกำลังอยู่ในสถานการณ์การอะไร เขากำลังรู้สึกอย่างไร เขาจึงต้องสูบบุหรี่ นั่งเก้าอี้ตัวนี้ ต้องนอนหลับ ต้องร้องไห้ หรือต้องพูดด้วยถ้อยคำแบบนี้ ฯลฯ เมื่อนักแสดงเข้าใจความรู้สึกของตัวละครที่เขาแสดงแล้วนั่นแหละ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติของมันเอง / Quentin Tarantino (Reservoir Dogs ,Pulp Fiction ,Jackie Brownz ,Kill Bill 1&2, Death Proof): ทุกวันนี้ผมยังคงเป็นนักศึกษาภาพยนตร์อยู่นะ จะเรียนจบก็เมื่อตายนั่นแหละ ส่วนอนาคตของผมก็คือ คุณลุงที่เป็นผู้จัดการโรงหนังเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ ที่ไหนสักแห่งที่ยังบ้าหนังเหมือนเดิม นอกจากหนังแล้วผมยังชอบประวัติศาสตร์มาก เพราะอ่านทีไรก็เหมือนได้ดูหนังสนุกๆ ทุกที
/ Quentin Tarantino (Reservoir Dogs ,Pulp Fiction ,Jackie Brownz ,Kill Bill 1&2, Death Proof): ทุกวันนี้ผมยังคงเป็นนักศึกษาภาพยนตร์อยู่นะ จะเรียนจบก็เมื่อตายนั่นแหละ ส่วนอนาคตของผมก็คือ คุณลุงที่เป็นผู้จัดการโรงหนังเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ ที่ไหนสักแห่งที่ยังบ้าหนังเหมือนเดิม นอกจากหนังแล้วผมยังชอบประวัติศาสตร์มาก เพราะอ่านทีไรก็เหมือนได้ดูหนังสนุกๆ ทุกที / เปี๊ยก โปสเตอร์ (วัยอลวน โทน ดวง ชู้ ข้าวนอกนา สะพานรักสารสิน) จาก นิตยสารไบโอสโคป ฉบับเดือนมีนาคม 2550: หน้าที่หลักของผู้กำกับคือ 1.กำกับศิลปะในการเล่าเรื่องด้วยภาพและเสียง 2.กำกับทีมงานให้ประสานกันอย่างมีพลัง 3.กำกับการแสดง 4.กำกับตัวเองให้นิ่ง และมีสมาธิในการทำงาน

หงจินเป่า

หงจินเป่า (ผีกัดอย่ากัดตอบ หวงเฟยหง DraGon Forever): คุณมีสิทธิ์พังถ้าดันใจร้อนกระโดดพรวดพราด เพราะฐานของคุณมันยังไม่แน่น สิ่งที่ต้องทำก็คือการก้าวบันไดไปทีละขั้น ทีละขั้น อย่างตอนผมเป็นตัวประกอบแสดงคิวบู๊ ผมมุ่งมั่นจะเป็นผู้ช่วยผู้กำกับคิวบู๊ พอได้เป็นสมใจ ผมก็มุ่งไปสู่ผู้กำกับคิวบู๊ จากนั้นก็ค่อยๆก้าวไปโดยไม่ท้อกระทั่งมาเป็นผู้สร้างภาพยนตร์
John Woo (A Better tomorrow-โหดเลวดี , The Killer , Hard boiled , Face/off , Mission Impossible 2): เหตุเพราะการสื่อสารกับผู้คนคือปัญหาส่วนตัวของผม หนังของผมจึงเป็นเหมือนสะพานที่ผมเพียรสร้างเพื่อเชื่อมต่อกับคนดู สังเกตได้ว่าหนังของผมมักจะเล่าเรื่องการเชื่อมคนสองคนไว้ด้วยกันเพราะมีสิ่งที่ชอบคล้ายๆ กัน ผมพยายามบอกผ่านหนังที่จะบอกความจริงจากหัวใจอย่างซื่อตรง แม้เรื่องนี้ผมเองยังรู้สึกว่ามันยังไม่สมบูรณ์ ผมยังมีอะไรๆ ที่บอกจะคุณอีก แต่นั่นทำให้ผมมีกำลังใจอยากจะทำหนังเรื่องต่อไป เพื่ออยากบอกคุณให้ลึกซึ้งกว่านี้