“เวลาที่เราพูดถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากภาพยนตร์ เราอาจจะไม่สามารถพูดได้ชัด ๆ ว่าภาพยนตร์ทำให้เกิดอย่างนั้นอย่างนี้ได้โดยตรง แต่เราคิดว่าบทบาทสำคัญเบื้องต้นของหนัง ไม่ว่าจะเป็นหนังสารคดี หนังสั้น หรือหนังยาว ก็คือ การชวนให้คนเริ่มตั้งคำถาม” – ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ Documentary Club
หลายคนเชื่อว่าภาพยนตร์มีบทบาทเป็นอย่างยิ่ง ที่มีพลังในการเปลี่ยนแปลงสังคม แต่ในข้อเท็จจริงอาจจะต้องพูดกันในอีกระดับหนึ่งว่า มันอาจจะมีอยู่บ้าง เช่น กรณีหนังสารคดีของอัลกอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ(Albert Arnold Algor JR.) เรื่อง An Inconvenient Truth ซึ่งทําขึ้นเพื่อรณรงค์ภาวะโลกร้อน ในขณะที่สภาวะภูมิอากาศมีความเปลี่ยนแปลงแต่ปัญหาโลกร้อนยังไม่ได้เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึง
ปรากฏว่า พลังของหนังสารคดีเรื่องนี้กลับได้ผลเชิงรณรงค์ในวงกว้าง เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ถูกยกขึ้นมาบ่อยมาก ในแง่สร้างความตระหนักให้ผู้คนรู้ว่านี่คือปัญหาใหญ่ระดับโลก ด้วยการนำเสนออย่างตรงไปตรงมา เห็นภาพถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโลกจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง แล้วก็มีขมวดท้ายว่าพวกเราจะมีส่วนช่วยกันอย่างไร ? ใครดูก็จะรู้สึกว่าเราต้องทําอะไรสักอย่างบ้างแล้ว
หนังที่มีพลังสามารถกระตุ้นกระตุกให้คนเริ่มหันมาตั้งคําถาม โดยเฉพาะกับสิ่งที่เขามองไม่เห็น ทั้งๆที่มันคือปัญหาใกล้ตัว ปัญหาความทุกข์ความสุขของผู้คนที่อยู่ร่วมสังคมหรือเป็นเพื่อนร่วมโลกเดียวกัน หรือแม้แต่ปัญหาที่ใหญ่อย่างปัญหาในเชิงโครงสร้าง ที่ไม่เคยแม้แต่ตั้งคําถามซึ่งหนังแบบนี้ยังมีไม่มาก ที่เปิดโลกทัศน์แล้วสร้างแรงผลักดันให้ผู้คนลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อให้มันดีขึ้น แล้วสุดท้ายจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยเพียงใดหรือไม่
ในอีกแง่หนึ่งก็เชื่อว่า ในที่สุดหนังก็จะทำหน้าที่ของมันอย่างดีที่สุด แม้อาจจะไปไม่ถึงการเปลี่ยนแปลง แต่อย่างน้อยทำให้คนดูต้องตั้งคําถาม เพราะบังเกิดความข้องใจ ซึ่งนี่แหละคือพลังที่สำคัญที่สุดของภาพยนตร์
เรายังต้องพยายามหาคําอธิบายว่าทําไมถึงจะต้องเอาหนังแบบนี้มาฉาย อย่างตามทีวีช่องต่าง ๆ เขาจะบอกว่าเขาก็มีหนังสารคดี ระดับที่ดีลกับบีบีซี, National Geographic อยู่แล้ว เราเลยต้องอธิบายว่าของเราคือ Documentary feature ที่ ไม่ใช่คือหนังสารคดี ที่เราคุ้นชินที่เคยดูในทีวีหรือในแพลตฟอร์มเหมือนหนังสารคดีทั่ว ๆ ไป
แต่เมื่อผ่านมาหลายปีจึงเห็นค่อนข้างชัดแล้วว่า ทุกวันนี้อาจจะไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายแล้ว เพราะส่วนมากเขาเข้าใจกันแล้ว โลกมันเปลี่ยนไปเร็ว แล้วก็มีพื้นที่มีแพลตฟอร์มต่าง ๆ ตอนนี้ความเข้าใจของคนที่มีต่อหนังสารคดีน่าจะเปลี่ยนไปเยอะพอสมควร
Doc Club เราก็พยายามเลือกหนังที่มีประเด็นที่บัดนี้มันได้เกิดขึ้นมาในโลกในสังคม แต่ยังไม่เคยมีใครตั้งคำถาม แล้วมันมาทำหน้ามาเปิดบทสนทนาใหม่ๆ ในประเด็นที่ใกล้ตัวมาก ๆ เป็นปัญหาที่กำลังประสบกันอยู่ เพียงแต่ว่ามันอาจจะความสําเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง แต่ก็มีหลายประเด็นที่ค่อนข้างจะเป็นประเด็นเชิงก้าวหน้าและก็สามารถทําให้ผู้คนเกิดบทสนทนาได้
บทความนี้เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ Documentary Club ใน fuse. In Sequence