ภาพยนตร์โดย จัสติน หลิน ผู้กำกับเอเชียที่เปรี้ยงปร้างในอเมริกาด้วยหนังเรื่อง Better Luck Tomorrow, และแฟรนไชส์ Fast and the Furious / ทำหนังมือถือสนุกตรงไหน : หลินเล่าว่า “ผมตื่นเต้นกับงานนี้มาก ตอนแรกใครๆ ได้ยินโจทย์คงร้องว่า “ว้า ทำหนังใส่มือถือก็ต้องถ่ายด้วยกล้องดิจิทัลอย่างเดียวและต้องถ่ายแต่ระยะโคลสอัพน่ะสิ ถ่ายภาพกว้างไม่ได้” แต่หลังจากลองทำดู ผมก็พบว่ามันเป็นความเข้าใจที่ผิดถนัด จริงๆ แล้วเราถ่ายภาพกว้างได้ไม่ต่างจากหนังที่ฉายบนจอยักษ์ 500 ฟุตหรอก งานนี้จึงถือเป็นประสบการณ์ชั้นยอดสำหรับผมเลยล่ะ” / (ตีโจทย์ยังไง) : ความที่ไม่เคยทำหนังสำหรับจอเล็กมาก่อน หลินจึงเริ่มด้วยการทดลองถ่ายอะไรต่ออะไรแล้วนำมาฉายบนจอ 2×2 นิ้วเพื่อศึกษาอย่างละเอียด จนจับสังเกตได้ว่า หนังที่ฉายบนจอขนาดนี้จะดูมีจังหวะเร็วกว่าปกติ ดังนั้นเราจะต้องคำนึงถึงจังหวะในการตัดต่อที่ต่างจากหนังทั่วไป แต่นอกเหนือจากนี้แล้วหลินไม่คิดว่าขนาดของจอจะสร้างข้อจำกัดอะไรอีก โดยเฉพาะต่อการเล่าเรื่อง ดังนั้น เขาจึงเลือกเรื่องที่เขาสนใจอย่างเต็มที่โดยไม่กังวลว่าจะเหมาะกับจอรึเปล่า / (พวกเขาทำหนังอะไร) : ผลออกมาเป็นหนังเสียดสีว่าด้วยนักปฏิวัติชาวเม็กซิกัน ผู้สร้างแรงบันดาลใจแก่คนทั่วโลก ก่อนจะโด่งดังจนถูกสังคมบริโภคนิยมนำไปใช้เป็นแบรนด์ทั้งบนเสื้อยืด, วิดีโอเกม, เอ็มวี, โฆษณา หรือพูดอีกอย่างว่าหลินเสียดสีปรากฏการณ์ความป๊อปที่เกิดขึ้นกับ เช เกวารา นั่นเอง หนังของหลินไม่ใกล้เคียงกับคำว่า “เรียบง่าย” แบบเรื่องอื่นๆ เลย ไม่ว่าจะด้านพล็อตหรือวิธีนำเสนอ… เขาใช้เวลา 8 วันถ่ายหนังยาว 2 นาทีกว่าๆ โดยใช้ภาพที่ทั้งถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล, ฟิล์ม 35 ไปจนถึงฟุตเตจขาวดำ เพื่อให้เกิดเกรนหลากหลายแปลกตา แถมยังไปถ่ายในกว่า 20 โลเคชั่น (ทั้งในสตูดิโอ, หน้ากรีนสกรีน และสถานที่ต่างๆ ทั่วแอลเอ) จากนั้นก็ตัดต่อด้วยอีกสารพัดเทคนิค นี่ยังไม่รวมการใช้วิชวลเอฟเฟ็คต์และแอนิเมชั่นที่ทำด้วยโปรแกรม Flash อีกนะ! (รับชมที่ Youtube แล้วพิมพ์ค้นหาด้วยคำว่า “Justin Lin’s La Revolucion de Iguodala”)
(ทำหนังมือถือสนุกตรงไหน) : “ความเจ๋งที่สุดของโปรเจ็คต์นี้ คือการมีโอกาสได้ทำหนังอย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลอะไร อยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น แค่ขอให้เหมาะกับการฉายจอเล็กเท่านั้นก็พอ” ฮิลล์บอก / (ตีโจทย์ยังไง) : “ผมว่าหนังที่เหมาะกับมือถือควรเป็นหนังซึ่งดูเป็นธรรมชาติสดๆ มันๆ หน่อยเพราะน่าจะดึงดูดความสนใจของคนที่ดูด้วยจอขนาดแค่ 2×2 นิ้วได้ดี แต่ขณะเดียวกันผมก็อยากให้ความสำคัญกับคุณภาพของภาพด้วย เพื่อจะได้ไม่ออกมาดูเหมือนคลิปวีดีโอตามอินเตอร์เน็ตทั่วๆ ไป