ทฤษฎีของลอรา มัลวี: การวิเคราะห์สื่อภาพยนตร์ผ่านมุมมองเพศวิถี

ลอรา มัลวี (Laura Mulvey) เป็นนักวิจารณ์ภาพยนตร์และนักทฤษฎีเพศวิถีที่มีชื่อเสียงจากการพัฒนาทฤษฎี “การมองในมุมมองเพศ” (Male Gaze) ที่มีอิทธิพลสำคัญในการศึกษาและวิเคราะห์ภาพยนตร์ในมุมมองทางเพศวิถี ทฤษฎีของเธอเปิดเผยวิธีที่ภาพยนตร์สะท้อนความสัมพันธ์ของผู้ชายและผู้หญิงในแง่ของการมองและการควบคุมทางเพศ การวิเคราะห์นี้นำเสนอว่าภาพยนตร์ส่วนใหญ่ในยุคคลาสสิกมีการสร้างและนำเสนอผู้หญิงในฐานะวัตถุทางเพศที่ถูกมองจากมุมมองของผู้ชายเป็นหลัก มัลวีใช้ทฤษฎีจิตวิเคราะห์และแนวคิดทางเพศวิถีในการวิเคราะห์ภาพยนตร์ โดยเฉพาะการศึกษาเรื่อง “การมอง” และ “การครอบงำ” ที่เกิดขึ้นระหว่างตัวละครและผู้ชม

1. การมองในมุมมองเพศ (Male Gaze)

คำว่า “Male Gaze” หรือ “การมองในมุมมองเพศชาย” คือแนวคิดหลักที่ลอรา มัลวีเสนอในบทความของเธอ “Visual Pleasure and Narrative Cinema” (1975) ซึ่งในบทความนี้เธอระบุว่า ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ในประวัติศาสตร์สื่อภาพยนตร์ได้สร้างภาพของผู้หญิงในฐานะวัตถุที่ชายมองและปรารถนา การที่ผู้ชมรับชมภาพยนตร์นั้น มักจะได้รับมุมมองจากตัวละครชายในเรื่องซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดการมองและการกระทำของตัวละครหญิงในเรื่อง

ตามทฤษฎีของมัลวี การมองในมุมมองเพศชายเป็นการกระทำที่สถาปนาผู้หญิงให้กลายเป็นวัตถุทางเพศที่ถูก “มอง” โดยชาย และในบางกรณี ภาพยนตร์ทำให้ผู้ชม (ที่มักเป็นผู้ชาย) รับรู้หรือ “รู้สึก” เหมือนกับว่าเขาเองเป็นผู้มองหรือครอบงำตัวละครหญิง ตัวละครหญิงในภาพยนตร์จึงมักจะถูกวางตำแหน่งในสถานการณ์ที่ต้องถูกมองจากชาย ซึ่งสามารถทำให้ผู้หญิงสูญเสียสถานะความเป็นมนุษย์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นอิสระ

2. การสร้างผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ

ทฤษฎี “Male Gaze” ของมัลวีไม่เพียงแต่ชี้ให้เห็นถึงการมองในแง่ของการถูกมองจากเพศชาย แต่ยังแสดงให้เห็นถึงวิธีที่ภาพยนตร์สร้างและกำหนดบทบาทของผู้หญิงในฐานะ “วัตถุ” ที่ถูกต้องสำหรับการมองและการกระทำทางเพศ ผู้หญิงในภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะถูกนำเสนอในลักษณะที่ทำให้เธอกลายเป็นสิ่งที่ชายต้องการมองหรือครอบครอง เช่น การจัดแสง การจัดมุมกล้อง หรือแม้แต่ท่าทางที่ตัวละครหญิงใช้ ทั้งหมดนี้มักจะถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดและเน้นความเป็นเพศของเธอ โดยไม่ให้เห็นถึงความซับซ้อนทางอารมณ์หรือความเป็นมนุษย์ของตัวละครนั้น

การใช้มุมกล้องที่บ่งบอกถึงการมองจากมุมมองชาย ตัวอย่างเช่น การถ่ายภาพเน้นรูปร่างของผู้หญิง หรือการจัดตำแหน่งของตัวละครหญิงในลักษณะที่แสดงให้เห็นความเปราะบางหรือความยินยอมในฐานะผู้ถูกมอง มักเป็นรูปแบบที่เห็นได้ในภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วย “Male Gaze”

3. ทฤษฎีจิตวิทยาของฟรอยด์ในภาพยนตร์

มัลวีใช้ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมุนด์ ฟรอยด์ในการวิเคราะห์ภาพยนตร์ โดยเฉพาะแนวคิดเรื่อง “การขาดหาย” (castration anxiety) ซึ่งเป็นความกลัวที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ชายรู้สึกว่าความเป็นชายของเขาอาจถูกทำลายหรือสูญหายจากการเห็นความเป็นผู้หญิง ฟรอยด์อธิบายว่าในเชิงจิตวิทยา ผู้ชายอาจมีความรู้สึกกลัวเมื่อเขามองเห็นความแตกต่างทางเพศที่มีอยู่ในผู้หญิง ดังนั้นภาพยนตร์มักจะใช้วิธีการต่างๆ เพื่อปกปิดความกลัวนี้ เช่น การทำให้ผู้หญิงดูอ่อนแอหรือไร้การควบคุมเพื่อไม่ให้ผู้ชายรู้สึกถึงความขาดหายจากความเป็นชาย

4. ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงและการถูกมองในภาพยนตร์

ทฤษฎีของมัลวีชี้ให้เห็นว่าในภาพยนตร์ ผู้หญิงมักจะถูกกำหนดให้เป็นวัตถุทางเพศที่ไม่สามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงหรือความเป็นอิสระได้ ภาพยนตร์มักจะทำให้ผู้หญิงต้องอยู่ในตำแหน่งที่ถูกมองหรือประเมินค่า การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นการมองในแง่ทางเพศ แต่ยังเป็นการกระทำที่เน้นถึงอำนาจและความเป็นเจ้าของของผู้ชายที่มอง

ในบางครั้ง ผู้หญิงในภาพยนตร์อาจจะมีบทบาทสำคัญในเรื่องราว แต่สิ่งที่ถูกเน้นมักจะเป็นรูปร่างหน้าตาของพวกเธอมากกว่าบุคลิกภาพหรือความคิด ซึ่งหมายความว่าในระดับจิตใต้สำนึก ภาพยนตร์หลายเรื่องได้สร้างภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่มีลักษณะเหมือนสิ่งของที่ผู้ชายสามารถเข้าไปครอบครองหรือใช้ประโยชน์ได้

5. ผลกระทบและการวิจารณ์ภาพยนตร์ร่วมสมัย

ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทฤษฎี “Male Gaze” ของมัลวีได้เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิจารณ์ภาพยนตร์และงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับภาพเพศ ทฤษฎีนี้ช่วยให้ผู้ชมสามารถตระหนักถึงการสร้างและการใช้สัญลักษณ์ทางเพศที่ฝังลึกอยู่ในสื่อภาพยนตร์หลายเรื่อง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการสร้างภาพยนตร์ที่ต้องการสะท้อนถึงการมองที่หลากหลายและการให้เสียงแก่ตัวละครหญิงอย่างแท้จริง

แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการที่ภาพยนตร์นำเสนอผู้หญิง แต่ทฤษฎีของมัลวียังคงมีอิทธิพลสำคัญในการสร้างพื้นที่ใหม่ ๆ สำหรับการวิจารณ์และการพัฒนาการทำภาพยนตร์ที่หลากหลายและเป็นอิสระจากมุมมองทางเพศที่จำกัด

ทฤษฎี “Male Gaze” ของลอรา มัลวีได้เปิดมุมมองใหม่ในการวิเคราะห์ภาพยนตร์ โดยการเน้นที่วิธีการที่ผู้หญิงถูกนำเสนอในฐานะวัตถุที่ถูกมองจากเพศชาย การมองในมุมมองเพศชายนี้มีผลกระทบต่อการสร้างอัตลักษณ์และการรับรู้ตัวตนของผู้หญิงในสื่อภาพยนตร์ ทั้งยังช่วยสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจและเพศที่ฝังลึกอยู่ในวิธีการเล่าเรื่องของภาพยนตร์