ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์และจุงมีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ฟรอยด์เน้นที่ความต้องการในระดับจิตใต้สำนึก เช่น ความปรารถนาในทางเพศ, การปฏิเสธความเป็นจริง และการคุมความรู้สึกที่ไม่สามารถแสดงออกมาได้ในสังคม ขณะที่จุงมุ่งเน้นที่กระบวนการการพัฒนาและการค้นพบอัตลักษณ์ภายในตัวเอง โดยเน้นที่ “อาร์คีไทป์” และ “จิตใต้สำนึกรวม” (collective unconscious) ที่รวมถึงสัญลักษณ์และความหมายที่สืบทอดจากประสบการณ์ของมนุษย์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งภาพยนตร์มักสะท้อนถึงกระบวนการเหล่านี้ผ่านภาพและการเล่าเรื่อง
1. การตีความผ่านมุมมองของฟรอยด์
ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมุนด์ ฟรอยด์เน้นที่การศึกษาแรงขับทางจิตใต้สำนึกและความสัมพันธ์ระหว่างจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก ซึ่งมักจะเชื่อมโยงกับความต้องการที่ไม่สามารถแสดงออกมาในสังคมหรือสถานการณ์เฉพาะ เช่น ความปรารถนาทางเพศ, ความโกรธ, ความกลัว หรือความผิดปกติทางจิต ในการตีความภาพยนตร์ผ่านมุมมองของฟรอยด์ ผู้ชมสามารถมองหาสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงการต่อสู้ระหว่างความรู้สึกที่ถูกกดขี่กับสิ่งที่ถูกสังคมยอมรับ
การตีความตัวละครจากความฝันและการยึดติดกับอดีต
ภาพยนตร์หลายเรื่องใช้สัญลักษณ์ของความฝันหรือภาพที่บ่งชี้ถึงอดีตที่ยังคงมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของตัวละคร เช่น ในภาพยนตร์ Inception (2010) ของคริสโตเฟอร์ โนแลน, ตัวละครหลักโดม คอบบ์ (Leonardo DiCaprio) ต่อสู้กับความรู้สึกผิดและความฝันที่เกี่ยวข้องกับการตายของภรรยา ความฝันในภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกของความรู้สึกที่ถูกกดขี่ภายในจิตใต้สำนึก แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้กับความผิดปกติทางจิตใจที่เกิดจากการตัดสินใจในอดีต ฟรอยด์มองว่า ความฝันและสัญลักษณ์เหล่านี้สะท้อนถึงความปรารถนาหรือความกลัวที่ไม่สามารถแสดงออกในชีวิตจริงได้
ซิมโบลิซึมทางเพศและจิตใต้สำนึก
ทฤษฎีของฟรอยด์ยังเน้นที่ความหมายทางเพศที่แฝงอยู่ในสัญลักษณ์ต่าง ๆ ภายในภาพยนตร์ ตัวอย่างเช่นใน Pulp Fiction (1994) ของควินติน ทาแรนติโน บทสนทนาและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเรื่องเกี่ยวข้องกับความต้องการและความเครียดที่เกี่ยวข้องกับความปรารถนาทางเพศ, ตัวละครและเหตุการณ์ในภาพยนตร์นี้มักสะท้อนถึงความพยายามในการควบคุมหรือหลีกเลี่ยงการแสดงออกของแรงขับที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ในการตีความเรื่องนี้ เราจะเห็นการเชื่อมโยงระหว่างสัญลักษณ์และการต่อสู้ระหว่างจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก
2. การตีความผ่านมุมมองของจุง
คาร์ล จุงเสนอแนวคิดที่แตกต่างจากฟรอยด์ในเรื่องของการศึกษาจิตใต้สำนึกและความหมายของสัญลักษณ์ในจิตวิทยาของมนุษย์ จุงเน้นที่การพัฒนาตัวตนภายในตัวบุคคลผ่านการสำรวจ “จิตใต้สำนึกรวม” หรือ Collective Unconscious ซึ่งประกอบไปด้วยอาร์คีไทป์ (Archetypes) ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในทุกวัฒนธรรมและทุกยุคสมัย อาร์คีไทป์เหล่านี้เป็นภาพจำลองของประสบการณ์พื้นฐานมนุษย์ที่ได้ถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น
การตีความสัญลักษณ์และอาร์คีไทป์ในภาพยนตร์
ในมุมมองของจุง, สัญลักษณ์ในภาพยนตร์สามารถสะท้อนถึงการเดินทางของตัวละครในการค้นหาตัวตนที่แท้จริง ตัวอย่างเช่นใน The Wizard of Oz (1939), การเดินทางของดอโรธีไปยังดินแดนมหัศจรรย์เป็นการเดินทางในเชิงจิตวิทยาที่สะท้อนถึงการค้นหาความกล้าหาญ, การรับรู้ตัวตน, และการยอมรับตัวเองในท้ายที่สุด การเดินทางของดอโรธีในโลกที่เต็มไปด้วยอาร์คีไทป์เช่น เจ้าหญิง, หมอผี, และสิงโตที่ขลาด สะท้อนถึงกระบวนการที่ตัวละครต้องผ่านเพื่อบรรลุความเข้าใจในตัวตนของตัวเอง
การต่อสู้ภายในของตัวละครและการบรรลุถึงอำนาจภายใน
ในภาพยนตร์ Fight Club (1999) การต่อสู้ภายในระหว่างตัวละครหลัก (เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน) กับตัวละครอีกตัว (แบรด พิตต์) เป็นการต่อสู้ระหว่างด้านที่สังคมยอมรับกับด้านที่ถูกกดขี่ในจิตใต้สำนึก อาร์คีไทป์ของ “เงา” (Shadow) ซึ่งในทฤษฎีของจุงหมายถึงด้านมืดของจิตใจมนุษย์ที่เราไม่ต้องการยอมรับหรือแสดงออก ในการต่อสู้ภายในนี้, ตัวละครจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงภายในตัวเองที่ไม่เคยถูกยอมรับ จึงจะสามารถเติบโตไปสู่การบรรลุความเข้าใจในตัวตนและการยอมรับในอารมณ์ที่ซ่อนเร้น
3. การประยุกต์ใช้ทฤษฎีทั้งสองในการวิเคราะห์ภาพยนตร์ร่วมสมัย
การนำทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์และจุงมาใช้ในการตีความภาพยนตร์ร่วมสมัยนั้นสามารถทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงความซับซ้อนของตัวละครและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรื่อง ตัวละครในภาพยนตร์ไม่เพียงแต่แสดงออกตามธรรมชาติของมนุษย์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความต้องการที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก ทั้งในด้านจิตใจและอารมณ์
ภาพยนตร์อย่าง Black Swan (2010) ของดาร์เรน อาโรนอฟสกี เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ในการวิเคราะห์ตัวละครหลัก นาตาลี พอร์ตแมน ในบทบาทของนีน่า ตัวละครนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายในตัวเองระหว่างความฝันที่จะเป็นนักบัลเลต์ที่สมบูรณ์แบบกับด้านมืดของตัวเองที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ซึ่งเป็นการสะท้อนอาร์คีไทป์ของ “เงา” ที่จุงอธิบายไว้